มูรินโญ่ชี้หน้าด่าเปาในลานจอดรถหลังประณามการตัดสินเละ

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมโรม่า ประณามการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนัดชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา อีกทั้งยังตามไปเผชิญหน้ากับทีมกรรมการถึงลานจอดรถของสนาม

โชเซ่ มูรินโญ่ ออกมาประณามผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ หลังจากที่โรม่าพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษต่อเซบีย่าในเกมนัดชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา (พุธที่ 31 พฤษภาคม 2566) ขณะที่เขามีข่าวเชื่อมโยงกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยหลังจากต่อเวลาพิเศษเกมนี้ก็จบลงที่ผลเสมอ 1-1 ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสินโดยลูกยิงของจานลูก้า มันชินี่และโรเจอร์ อิบานเญซ โดยยาซีน บูนู เซฟเอาไว้ได้ ก่อนที่ฮีโร่ในฟุตบอลโลกของอาร์เจนติน่าอย่างกอนซาโล่ มอนติเอล จะยิงจุดโทษที่กลายเป็นประตูชัยในที่สุด

ข่าวกีฬาล่าสุด

เกมนี้ดำเนินไปค่อนข้างเดือดโดยมีใบเหลืองปลิวว่อนถึง 13 ใบ – 7 ใบเป็นของโรม่า และ 6 ใบเป็นของเซบีย่า ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกมยูโรป้า ลีก ซุ้มม้านั่งสำรองของทั้งสองฝ่ายก็ค่อนข้างจะมีอารมณ์ โดยมีอยู่ช่วงนึงที่มูรินโญ่ต้องโดนสตาฟฟ์โค้ชคอยรั้งเอาไว้ และเขารู้สึกฉุนเฉียวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเทย์เลอร์ถึงขนาดอ้างว่าเทย์เลอร์ผู้ตัดสินชาวอังกฤษนั้น ‘ดูเหมือนเป็นคนสเปน’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดสินให้ใบเหลืองแก่ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ สำหรับการพุ่งล้มแต่ไม่ทำแบบเดียวกันกับ ลูกัส โอกัมโปส ตอนที่เขาล้มลงในกรอบเขตโทษ

“สิ่งที่ผมพูดคือเราจะออกจากที่นี่พร้อมกับถ้วยหรือไม่ก็ออกไปแบบตายไปแล้ว” มูรินโญ่บอกกับ Sky Sport Italia หลังจบเกม “เราเหนื่อยกายแทบตาย เหนื่อยใจแทบตาย ตายเพราะเราคิดว่ามันเป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่ยุติธรรมกับเหตุการณ์มากมายที่เป็นที่ถกเถียงกัน” “เราเหนื่อยมากๆ แต่ภูมิใจ ผมพูดเสมอว่าคุณสามารถแพ้การแข่งขันฟุตบอลได้ แต่อย่าเสียศักดิ์ศรีหรือความเป็นมืออาชีพของคุณเลย ผมชนะรอบชิงชนะเลิศยุโรป 5 ครั้ง ผมแพ้ครั้งนี้ แต่ครั้งนี้ผมกลับบ้านอย่างภาคภูมิใจกว่าที่เคย เด็กๆ ทุ่มเททุกอย่างอย่างเต็มที่ในฤดูกาลนี้”

เขากล่าวต่อว่า: “เรารักเสื้อตัวนี้, เรารักในธรรมชาติของเรา, เราให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้, ทำงานด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และทุ่มเททุกสิ่งที่เราต้องทุ่มเท เราแต่ละคนมีปฏิกิริยาแตกต่างกัน คนหนึ่งร้องไห้ อีกคนไม่ร้อง แต่ความจริงก็คือเราทุกคนเศร้ามาก เรากลับไปอย่างเหนื่อยล้า, เราตายด้วยความรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม” “มันเป็นเกมที่เข้มข้น, เป็นลูกผู้ชาย และน่าตื่นเต้นกับผู้ตัดสินที่ดูเหมือนเป็นคนสเปน มันมีแต่ใบเหลือง, ใบเหลือง ใบเหลืองตลอดเวลา ความอยุติธรรมแสดงให้เห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่า เอริค ลาเมล่า ควรได้ใบเหลืองที่สอง แต่เขาไม่ได้ และเขาได้ยิงจุดโทษในการดวลจุดโทษตัดสิน”

มูรินโญ่ ซึ่งกำลังลุ้นให้ทีมผ่านไปเล่นยูโรป้า ลีก ฤดูกาลหน้า ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา นัดปิดฤดูกาลในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ยังโจมตีเทย์เลอร์ต่อไปในการแถลงข่าวหลังเกมโดยกล่าวว่า “ในเมื่อเทย์เลอร์เป็นผู้ตัดสินที่ยอดเยี่ยมมาก หวังว่าเขาจะทำหน้าที่ในแชมเปี้ยนส์ ลีกเท่านั้น (ในฤดูกาลหน้า) และผมหวังว่าความผิดพลาดของเขาจะเป็นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ใช่ในยูโรป้า ลีก”

มูรินโญ่ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับการย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ว่ากุนซือวัย 60 จะยืนกรานว่าไม่มีการติดต่อใดๆ ก็ตาม “ผมจะไปพักร้อนในวันจันทร์ ถ้าเรามีเวลาคุยกันก่อนวันจันทร์ เราจะมาคุยกัน แต่ถ้าไม่ผมจะไปพักร้อนแล้วเราจะได้เห็นกัน ผมต้องสู้เพื่อเด็กเหล่านี้ ดังนั้นผมจะไม่พูดว่าผมจะอยู่ต่อ” กุนซือชาวโปรตุกีสกล่าว “ผมเป็นคนจริงจัง เมื่อหลายเดือนก่อนผมบอกกับเจ้าของสโมสรว่าหากผมติดต่อกับสโมสรอื่น พวกเขาจะต้องรู้ก่อนใคร ผมจะซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาเสมอ” “ผมได้พูดคุยกับสโมสรในเดือนธันวาคม เมื่อผมได้รับการติดต่อจากทีมชาติโปรตุเกส ผมไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลยตั้งแต่นั้นมา ผมเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีและนี่คือสถานการณ์ของผม”

มูรินโญ่ไม่มีอารมณ์ที่จะเก็บเหรียญรองชนะเลิศยูโรป้า ลีก และถึงกับโยนให้แฟนบอลวัยรุ่นคนนึงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน ความพ่ายแพ้ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เขาแพ้นัดชิงชนะเลิศของรายการยุโรป หลังจากชนะมาโดยตลอดใน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ หลังจากความพ่ายแพ้ เขานำลูกทีมมากอดกันเป็นวงกลมและกล่าวกับพวกเขา “พวกนายเล่นเกมที่ยอดเยม ทั้งยุโรปได้เห็นพวกนายแล้ว” ซึ่งหลังจากรับเหรียญรองแชมป์เขาก็ถอดมันออกทันที จากนั้นก็เดินไปที่ซุ้มม้านั่งสำรองของโรม่าและโยนเหรียญให้กับแฟนบอลหนุ่มน้อยรายนึงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน โดยมีกองเชียร์ปรบมือให้กับท่าทีดังกล่าว ก่อนจะเดินตรงลงอุโมงค์ไปยังห้องแต่งตัว

มูรินโญ่ไม่ได้อยู่ดูนักเตะโรม่ารับเหรียญรางวัลรองชนะเลิศ และไม่ได้กลับมาจากห้องแต่งตัวเพื่อดูเซบีย่าชูถ้วยแชมป์ และดูเหมือนจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ในช่วงจบเกม นอกจากนี้กุนซือชาวโปรตุเกสยังเสี่ยงโดนยูฟ่าแบนและถูกปรับอีกแล้วหลังจากเผชิญหน้ากับผู้ตัดสินยูโรป้า ลีก ในที่จอดรถของสนาม โดยตราหน้าพวกเขาว่า ‘ไอ้พวกขี้โกง’

เรียกว่ามันน่าเหลือเชื่อมากที่มูรินโญ่ไม่ยอมจบกับผู้ตัดสินแค่ในสนามและหลังเกม เพราะดูเหมือนอารมณ์เขายังเดือดต่อเนื่องจนถึงลานจอดรถของปุสกัส อารีน่า กว่าหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เซบีย่าชูถ้วยแชมป์ไปแล้ว โดยมูรินโญ่ได้รอที่จะเผชิญหน้าเทย์เลอร์และทีมผู้ตัดสินของเขา ซึ่งรวมถึงไมเคิล โอลิเวอร์ด้วย “มันเป็นความอัปยศอดสู ช่างน่าละอายเสียจริง” ผู้จัดการคนดังกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดและชัดเจนถึงสองครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ภาษาอิตาเลียนเพื่อด่าทอต่อไป “แม้แต่ (โรแบร์โต้) โรเซ็ตติ (ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินยูฟ่า) ยังบอกว่ามันไม่ใช่จุดโทษเลย” มูรินโญ่พูดเป็นภาษาอิตาเลียนโดยอ้างถึงลูกจุดโทษนาทีที่ 75 ที่ลูกัส โอกัมโปส ลากบอลไปโดน โรเจอร์ อิบันเญซ เตะโดนบอลก่อนหัวหอกเซบีย่าล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้จุดโทษก่อนดู VAR กลับคำตัดสิน ข่าวกีฬาแนะนำ>>> ริชาร์ลิซอนกลายเป็นตัวตลกสำหรับวิลสัน&อันโตนิโอ

ริชาร์ลิซอนกลายเป็นตัวตลกสำหรับวิลสัน&อันโตนิโอ

ริชาร์ลิซอน กองหน้าทีมชาติบราซิลของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ กลายเป็นตัวตลกสำหรับ 2 กองหน้าแห่งเวทีพรีเมียร์ ลีก อย่าง คัลลั่ม วิลสัน และ มิเคล อันโตนิโอ เมื่อพูดถึงเรื่องการทำประตู

คลิปสุดฮาจากรายการ The Footballer’s Football Podcast ของ BBC แสดงให้เห็นว่ามิเคล อันโตนิโอ และคัลลัม วิลสัน แซะเพื่อนร่วมอาชีพอย่างริชาร์ลิซอนแบบไม่ไว้หน้าในเรื่องการทำประตูในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่ามันเป็นฤดูกาลที่ต้องลืมสำหรับกองหน้าชาวบราซิลหลังจากย้ายจากเอฟเวอร์ตันไปท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยแม้จะเป็นหนึ่งในนักเตะแกนนำของบราซิลในฟุตบอลโลกที่กาตาร์เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว และทำประตูยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ได้ แต่ฟอร์มระดับสโมสรของเขาในฤดูกาลนี้ก็ยังคงน่าสงสัยอย่างหนัก

ข่าวกีฬามันส์ๆ

เมื่อ 2-3 เดือนก่อน นักเตะวัย 25 ปียกให้ฤดูกาลนี้ของเขาเป็นฤดูกาลสุดเห่ย ซึ่งอันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมสเปอร์สในตอนนั้นก็เห็นด้วย และในขณะที่การทำประตูในลีกได้เพียงลูกเดียวทั้งฤดูกาลว่าเป็นสถิติที่ค่อนข้างแย่แล้ว แต่กลายเป็นอัตราส่วนใบเหลืองต่อประตูของกองหน้ารายนี้ที่ดึงดูดความสนใจของแฟนๆ พรีเมียร์ ลีก

ในโอกาสที่แสนจะหายากที่ริชาร์ลิซอนทำประตูได้ กองหน้ารายนี้ก็มักเลือกที่จะถอดเสื้อออกเพื่อเฉลิมประตู โดยโชว์รอยสักที่แผ่นหลังของเขา ซึ่งเป็นรอยสักที่ไมกาห์ ริชาร์ดส์ เคยอธิบายไว้ว่า ‘ประหลาด’ โดยเป็นรูปของตัวเขาเอง, โรนัลโด้ (R9) และเนย์มาร์ จูเนียร์ อย่างที่เราทราบกันดีว่าการฉลองประตูดังกล่าวส่งผลให้ตัวผู้เล่นได้รับใบเหลือง และหากนึงถึงประตูชัยในนาทีที่ 93 ของเซร์คิโอ อเกวโร่ ในเกมกับคิวพีอาร์ ในปี 2012 ซึ่งถือว่าคุ้มค่า(กับการถอดเสื้อ)กว่ามาก

สามครั้งในฤดูกาลนี้ที่ริชาร์ลิซอนวิ่งออกไปด้วยความดีใจและฉลองประตู จากนั้นก็ถอดเสื้อออก อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องอายในภายหลังเมื่อประตูที่เขายิงได้โดน VAR ริบคืน หลังจากนั้น ดาวเตะค่าตัว 60 ล้านปอนด์ก็มีสถิติที่น่าประทับใจนั่นก็คือ 4 ใบเหลืองต่อ 1 ประตูในลีก ในฤดูกาลนี้ ซึ่งทำให้นักเตะพรีเมียร์ ลีก ด้วยกันอย่างสองกองหน้ามิเคล อันโตนิโอ และคัลลัม วิลสัน มองว่าเป็นเรื่องตลก

ในการพูดคุยกันผ่านทางรายการ The Footballer’s Football Podcast ทาง BBC อันโตนิโอ ได้เผยสถิติอันน่าเหลือเชื่อนี้กับทางวิลสัน เริ่มจากการที่บอกว่า “เขา (ริชาร์ลิซอน) ยิง 4 ลูกฤดูกาลนี้ แต่ 3 ลูกเป็นล้ำหน้า เขาถอดเสื้อ 4 ครั้งฤดูกาลนี้” ก่อนหัวเราะอย่างสนุกสนาน ซึ่งวิลสันก็ตอบกลับไปว่า “เขาโดนใบเหลือง 4 ใบ เขาเกือบจะโดนโทษแบน” ก่อนที่ทั้งคู่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน

อดีตนักเตะขวัญใจแฟนๆ เอฟเวอร์ตันทำประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมที่เจอกับลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ เจ้าตัวดีใจจัดเลยถอดเสื้อฉลองประตู หลังจากนั้นไม่นานหงส์แดงก็ขึ้นเกมไปอีกฝั่งเพื่อทำประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 4-3 และกลายเป็นชัยชนะของพวกเขา ความโชคร้ายของริชาร์ลิซอนกลายเป็นเครื่องมือสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟนๆ ที่
ไม่ใช่สเปอร์สจำนวนมากในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะเห็นเพื่อนร่วมอาชีพในพรีเมียร์ ลีก (โดยเฉพาะกองหน้า) จะมาแซะกันเองออกสื่อแบบนี้ ข่าวกีฬาแนะนำ>>> ชนาธิป – สุภโชค คัมแบ็คลงตัวจริงทั้งคู่ ในศึกลูวาน คัพ

ชนาธิป – สุภโชค คัมแบ็คลงตัวจริงทั้งคู่ ในศึกลูวาน คัพ

ตัวจริงคู่! 2 ดาวเตะดีกรีทีมชาติไทย อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ มีชื่อลงเป็นตัวจริงทั้งคู่ให้กับต้นสังกัดในศึก ลูวาน คัพ ซึ่งทั้ง 2 คู่ จะเล่นกัน 17.00 น. (ตามเวลาไทย)

ความเคลื่อนไหวของนักเตะไทย ในญี่ปุ่น หลังล่าสุด ในศึกลูวาน คัพ เย็นวันนี้ เวลา 17.00 น. (ตามเวลาไทย) 2 ดาวเตะชาวไทยอย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ ที่มีชื่อลงสนามเป็นตัวจริงทั้งคู่ให้กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล และ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร

ข่าวกีฬาต่างประเทศ

สำหรับ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่สังกัดอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล และทีมของเจ้าตัวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ ที่สนามคาวาซากิ โทโดโรกิ สเตเดียม โดยเกมนี้ “เจ้าเจ” ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง หลังเกมลีกนัดล่าสุด มีชื่อเป็นตัวสำรองแต่ไม่ถูกส่งลงสนาม

ส่วนทางด้าน “เช็ค” สุภโชค สารชาติ อีกหนึ่งดาวเตะสัญชาติไทย เกมนี้ก็ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเช่นกัน ในเกมที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้านพบ สากัน โตสู ซึ่งเกมล่าสุดในลีกเจ้าตัวก็มีชื่อเป็นตัวสำรอง และที่สำคัญเกมนี้เจ้าตัวถูกจับไปเล่นในตำแหน่ง จอมทัพ หมายเลข 10 ที่เป็นตำแหน่งถนัดอีกด้วย ข่าวกีฬาแนะนำ>>> ลิเวอร์พูล ยู19วิวาททีมน้อง ดิอาซ!เด็กหงส์ได้เลือด-เปาแจกสามแดง

ลิเวอร์พูล ยู19วิวาททีมน้อง ดิอาซ!เด็กหงส์ได้เลือด-เปาแจกสามแดง

ลิเวอร์พูล ชุดยู 19 ผ่านเข้ารอบแปดทีมศึกลูกหนัง แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จจากการชนะ ปอร์โต้ ที่มีน้องชาย หลุยส์ ดิอาซ อยู่ในทีมด้วย

การดวลลูกโทษเมื่อวันพุธที่ 1 มี.ค. แต่เกมจบลงด้วยความวุ่นวายโดย เบน โด๊ค กองหน้าเจ้าบ้านเลือดกลบปากก่อนที่ผู้ตัดสินจะแจกสามใบแดง เกมระดับเยาวชนชุดยู 19 ที่สนาม เคิร์กบี้ จบลงด้วยความวุ่นวายโดย ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายไล่ตีเสมอทีมจากเมืองฝอยทอง 1-1 กระทั่งต้องอาศัยการดวลลูกโทษตัดสินหาทีมชนะ

ข่าวฟุตบอลวันนี้ ไทยรัฐ

จากการดวลความแม่นเป้า หงส์แดง เอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด 6-5 ได้เข้ารอบแปดทีมไปบู๊กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกสโมสรจาก โปรตุเกส แต่หลังจบเกมปรากฏว่านักเตะทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันในจังหวะที่ดาวเตะเจ้าบ้านกำลังฉลองชัยชนะ และเกิดการกระทบกระทั่งจน โด๊ก มีแผลแตกที่ริมฝีปาก

รายงานข่าวจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ เผยว่า เชซุส ดิอาซ นักเตะทีมเยือนซึ่งเป็นน้องชายของ หลุยส์ ดิอาซ ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย ของ เร้ด แมชีน เป็นหนึ่งในคนที่ยิงลูกโทษพลาดก่อนที่เหตุการณ์วุ่นวายจะเกิดขึ้นเนื่องจาก อูมาโร่ กานเด้ หัวหอกทีมเยือนซึ่งซัดลูกโทษพลาดเช่นกันออกอาการไม่ปลื้มที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ฉลองชัยชนะหลังจบเกมจนเกิดการกระทบกระทั่งกันแบบยกทีมก่อนที่ผู้ตัดสินจะแจกสามใบแดงให้กับ กานเด้ กับ กอนซาโล่ ริเบยโร่ ของทีม ปอร์โต้ และ ลูอิส คูมาส ของทีมเจ้าบ้าน

สำหรับ ลิเวอร์พูล หากผ่านด่าน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปได้ พวกเขาจะเล่นในรอบตัดเชือกพบกับทีมชนะระหว่าง อาแซด อัลค์มาร์ กับ เรอัล มาดริด

ข่าวแนะนำ : มิลานเร่งเครื่องต่อสัญญาใหม่เลเอาให้ได้

มิลานเร่งเครื่องต่อสัญญาใหม่เลเอาให้ได้

สกาย สปอร์ต อิตาเลี รายงานว่า เอซี มิลาน เดินหน้าเต็มที่ในการต่อสัญญาใหม่กับ ราฟาเอล เลเอา ตัวรุกของทีมให้ได้โดยเร็ว

 

 ข่าวกีฬา

 

แข้งทีมชาติโปรตุเกสตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรโดยเฉพาะในอังกฤษ แต่ว่าล่าสุด เชลซี หนึ่งในทีมที่สนใจอยู่เตรียมคว้า เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จาก เบนฟิก้า ร่วมทีม ทำให้ตอนนี้เหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังเป็นข่าวกันอยู่

ทางสื่อแดนรองเท้าบู๊ตเผยว่าทาง “ปีศาจแดง-ดำ” ได้เพิ่มข้อเสนอค่าเหนื่อยให้กับนักเตะเป็น 7 ล้านยูโรต่อปี โดยรายงานอ้างว่าใกล้ที่จะตกลงกันได้แล้วด้วย โดยปัจจุบันนักเตะมีสัญญากับทีมจนถึงปี 2024 เท่านั้น

ขณะเดียวกันนอกจาก เลเอา แล้วทาง มิลาน ก็กำลังเดินหน้าต่อสัญญากับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ อิสมาเอล เบนนาเซอร์ ด้วย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> เบลลิงแฮมขิงฮาแลนด์อดโควตายิงทีมเก่า

เบลลิงแฮมขิงฮาแลนด์อดโควตายิงทีมเก่า

จู้ด เบลลิงแฮม กองกลาง ดอร์ทมุนด์ ได้โอกาสคุยข่มใส่ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ กองหน้า แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งชปล.วานนี้เกมเจ๊า 0-0 ว่าเก่งมากับทุกทีมไหงตีนบอดเวลาเจออดีตต้นสังกัด? ก็เป็นการแซวประสาเพื่อนซี้

 

ข่าวกีฬา

 

เบลลิงแฮม วัย 19 กะรัตถือว่าสนิทกับ ฮาแลนด์ ที่แก่กว่ากัน 3 ปีอยู่พอสมควรระหว่างช่วงเวลาใต้เครื่องแบบ ‘เสือเหลือง’ นั่นทำให้การโคจรกลับมายังซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ของสตาร์นอร์วีเจี้ยนครั้งแรกจึงค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัว

บวกกับอาการป่วยก่อนลงเตะ และบรรยากาศกดดันจากแฟนบอลกว่า 80,000 ชีวิต ฮาแลนด์ เลยเล่นไม่ออก แถมถูกเปลี่ยนออกตอนเข้าครึ่งหลัง

งานนี้กองกลางผู้ดีเลยได้ทีขิงใส่ให้พอหอมปากหอมคอ

“มันเจ๋งมากที่สามารถตัดผู้เล่น ซิตี้ ทุกคนออกจากเกม ซึ่งโดยเฉพาะยิ่งหมอนั่น (ฮาแลนด์) เพราะเราทราบว่าสารพัดพิษแค่ไหน” การเปิดปากกับ ‘บีที สปอร์ต’

“ผมได้คุยกับเขาแบบตัว-ต่อ-ตัว ก็แซวไปว่า – มึงกับกูสู้กันบนชปล.เราเสมอ 1-1! (ยิงได้คนละลูกจากการพบกันครั้งแรก) แต่โดยส่วนตัวไม่พอใจสักเท่าไหร่เพราะเมื่อคืนพลาดโอกาสบวกเพิ่มอีก”

“ที่สุดแล้วเรามีความสุขเพราะยันเจ๊าทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ และสามารถดำเนินการผจญภัยบนเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป”

ดอร์ทมุนด์ คือ 1 จาก 9 ทีมที่การันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายร่วมกับ ซิตี้, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค, เบนฟิก้า, คลับ บรูช, นาโปลี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เรอัล มาดริด